คำขอขมา อาจาริเย ปมาเทน ทฺวารตเยนํ กตํ สพฺพํ อปราธํ ขมตุ โน ภนฺเต อจฺจโย โน ภนฺเต อจฺจคมา ยถาพาเล ยถามุฬเห ยถาอกุสเล เย มยํ ภนฺเต กทาจิ กรหจิ ปมาทํ วา อาคมฺม อโยนิโส มนสิการํ วา อาคมฺม มหาเถเร อคารวํ อกริมฺหา กาเยน วา วาจาย วา มนสา วา สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ เตสนฺโน ภนฺเต มหาเถโร อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณหาตุ อายตํ สํวราย โย โทโส โมหจิตฺเตน มหาเถรสฺมํ ปกโต มยา ขมตุ โน โทสํสพฺพปาปํ วินสฺสตฺ ฯ ข้าแต่ท่านพระอาจารย์ผู้เจริญ โดยความเป็นไปล่วงเกินอันใดได้ถึงทับแล้วซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นคนพาล ผู้เป็นคนหลง เป็นคนไม่ฉลาดด้วยประการไร จำเดิมแต่เกิดมา อาศัยความประมาท โดยอุบายไม่แยบคาย ได้กระทำความไม่เคารพ ในท่านพระอาจารย์ผู้เป็นพระมหาเถระ ที่ทรงไว้แล้วซึ่งพระคุณอันน่าเคารพสักการะยิ่ง ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี และระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอท่านพระอาจารย์ได้เมตตาให้อโหสิกรรม ซึ่งโทษอันเป็นไปล่วงเกินนั้นโดยความเป็นโทษอันล่วงเกินของข้าพเจ้าทั้งหลายนั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายจะสำรวมระวังต่อไป และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ จาก “ คำขอขมา “ ซึ่งพระอุดมสังวรวิสุทธิเถร ( วัน อุตฺตโม ) ได้เรียบเรียงไว้สำหรับงานพระราชทานเพลิงศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เมื่อ 20 มกราคม
ดังได้กล่าวมาแล้ว ว่าพอออกพรรษาที่ 3 ได้เพียง 5 วัน ท่านเจ้าคุณอริยคุณาธารก็มารับข้าพเจ้านำไปฝากให้อยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่า บ้านหนองผือ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ข้าพเจ้าได้มีโอกาสศึกษาอบรมอยู่กับท่านได้ฟังโอวาทของท่าน ตลอดฤดูแล้ง จนกระทั่งถึงเวลาเข้าพรรษาของปีใหม่ และได้อธิษฐานพรรษาอยู่กับท่านจนตลอดพรรษาที่ 4 โอวาทของท่านส่วนใหญ่ ล้วนแต่แนะนำให้ประพฤติปฏิบัติทางวินัยและธุดงค์ให้เคร่งครัด การภาวนา ท่านก็ให้พิจารณากายเป็นใหญ่ คือ กายาคตานุสติ
เมื่อมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ข้าพเจ้าก็เข้าไปพักที่วัดเจดีย์หลวง ซึ่งทราบว่าเป็นวัดที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเคยมาพัก ท่านพระอาจารย์มั่นก็เคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นั่นเหมือนกัน ระยะแรกได้พักวิเวกอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง 3 เดือน คืนหนึ่งขณะไปนั่งภาวนาในโบสถ์มีนิมิตภาพเกิดขึ้นว่า ปรากฏมีพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งมาหา ท่านได้มาให้โอวาทตักเตือนว่า “ ท่านจวน ถ้าท่านจะเป็นผู้ใหญ่เขานั้น ท่านอย่าวางแผ่นดิน เพราะความประพฤติของท่านยังไม่สม่ำเสมอ “
เมื่อกลับจากภาคเหนือ เดินทางกลับอุบลราชธานีบ้านเกินคราวนั้น ข้าพเจ้าได้ไปรับมารดามาบวชเป็นชีที่วัดป่าบ้านเหล่ามันแกว ดังนั้นพอถึงเวลาใกล้จะเข้าพรรษา ท่านพระอาจารย์มั่นจึงได้จัดให้ข้าพเจ้าไปจำพรรษาอยู่ที่บ้านเดิมเพื่อสงเคราะห์โยมมารดา และแต่งพระเถระองค์หนึ่งกำกับไปด้วย ชื่อหลวงพ่อคำอ้ายคนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นนั่นเอง ก่อนลาท่านไป ท่านพระอาจารย์มั่นได้กำชับข้าพเจ้าให้คำเตือนล่วงหน้าไว้ว่า “ เมื่อออกพรรษาแล้วให้รีบกลับมาหาผมนะ เดี๋ยวจะไม่ทันผม “
พอถึงเวลาจะปวารณาเข้าพรรษา หลวงปู่ขาว อนาลโย ก็ย้ายจากถ้ำเป็ดมาจำพรรษาที่เชิงเขาภูเหล็กบริเวณที่เรียกว่าหวายสะนอย ส่วนข้าพเจ้า หลวงปู่ท่านให้ไปจำพรรษาที่ถ้ำพวง หรือวัดบนของวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ที่ท่านพระอาจารย์วันสร้างอยู่เดี๋ยวนี้ ถ้ำพวงนี้แต่ก่อนเป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญมาก ท่านแต่งให้ข้าพเจ้าไปอยู่องค์เดียวในฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือนมกราคมเดือนอ้าย จนถึงเดือนเจ็ดอยู่คนเดียวตลอด ตอนเช้าไปบิณฑบาตที่บ้านหนองบัว ซึ่งอยู่ห่างจากถ้ำลงไปที่ทุ่งข้างล่างถึง 130 เส้น ( ประมาณ 5 กิโลเมตรเศษ ) การบิณฑบาตต้องเดินลงจากเขา แหวกทุ่งหญ้าเพ็ก ซึ่งสูงท่วมหัวไปโดยตลอด การจะไปการจะมากินเวลามากดังนั้นบางวันจึงฉันข้าวที่ตีนเขา แล้วถึงกลับขึ้นไปอยู่บนถ้ำพวงค์
อยู่ต่อมา ได้มีพวกญาติโยม พ่อออก แม่ออก สีกาสาว ขึ้นไปเที่ยวชมถ้ำพวงมากขึ้น บางคนก็ไปส่งเสบียงอาหาร ญาติของสามเณรคนหนึ่งเป็นหญิงสาวไปส่งอาหารถวายพระทุกวัน เขาไม่ได้ส่งแต่อาหาร หากแต่ส่งสายตามาให้ด้วย ทำตาหวานหยาดเยิ้ม สายตาของเขาลิด...ลิด..ลิด แรก ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่มองตาหวานทุกวัน ๆ ก็เกิดความรักความยินดีในหญิงนั้นเห็นนัยน์ตาของเขาว่างาม ว่าสวย ความจริงเขาอาจจะมีกิริยาอ่อนหวาน ทำตาหวานเช่นนั้นเองตามประสาหญิงสาว แต่ตัวเราไปหมายนัยน์ตาของเขาเอง หลายวันเข้า จิตก็เกิดยินดีในสายตาของเขา
ร้าน บุษบกทองคำ ที่อยู่ : เลขที่ 31/101 ซอย ชินเขต 2 ถนน งามวงค์วาน.เขต : หลักสี่ แขวง : ทุ่งสองห้อง จังหวัด :กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ : 10210 เบอร์โทร มือถือ : 0816489070 อีเมล : jedeethai@gmail.com เว็บไซต์ :www.jedeethai.com