ออกบวชเป็นพระฝ่ายธรรมยุต
ข้าพเจ้าได้มาบวชฝ่ายธรรมยุต เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2486 เวลา 17.00น. ณ พัทธสีมา วัดป่าสำราญนิเวศน์ ตำบลบ้านบุ่ง อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี ท่านพระครูทัศนวิสุทธิ ( มหาดุสิต เทวิโร ) เป็นพระอุปัชฌายะท่านเป็นหลานท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ( จันทร์ สิริจนฺโท ) เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ได้นำหลานคนนี้ไปอุปการะตั้งแต่เล็กจนบวชเรียนที่วัดบรมนิวาสและเจริญรุ่งเรืองต่อมาในพระพุทธศาสนา ต่อมาได้เป็นเจ้าคณะอำเภออำนาจเจริญ พอได้รับแต่งตั้งให้เป็นอุปัชฌาย์ได้เพียง 5 วัน ก็มาอุปสมบทข้าพเจ้าเป็นนาคแรก นับว่าข้าพเจ้าเป็นนาคแรกที่สุดของท่าน ท่านจึงได้ตั้งฉายาให้ข้าพเจ้าว่า “กุลเชฏฺโฐ “ แปลว่า พี่ชายคนใหญ่ที่สุดของหมู่ของพวกในวงศ์ตระกูลนี้ องค์ที่สองน้องชายคือท่านอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร แห่งวัดป่าแก้วบ้านชุมพล ซึ่งข้าพเจ้าได้ไปนั่งหัตถบาส อยู่ด้วย
พระกัมมวาจารย์ของข้าพเจ้าคือ พระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺโต ท่านอาจารย์ได้สั่งกำชับให้ข้าพเจ้าท่องปาฏิโมกข์ให้ได้หมดภายใน 1 เดือน ทั้งสั่งให้ท่องเจ็ดตำนานให้ได้ พร้อมกันในเวลาเดียวกันด้วย
ข้าพเจ้าได้ใช้ความอุตสาหะพยายาม ตะเกียกตะกายอย่างเต็มที่เพื่อท่องปาฏิโมกข์ และเจ็ดตำนานให้ได้ทันกำหนดภายใน 1 เดือน ตามที่ท่านอาจารย์สั่ง การท่องส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างจากการปฏิบัติธรรมในตอนกลางวันและเวลากลางคืนอันเป็นเวลาสงัดโดยใช้ตะเกียงกระป๋องนมไส้ด้ายจุดไฟ มีแสงสว่างริบหรี่ พออ่านออกเห็นตัวหนังสือเท่านั้น ท่านให้น้ำมันก๊าด 1 ขวดแม่โขง บอกว่าให้ใช้เท่านั้นแหละข้าพเจ้าก็จำกัดใช้เพียงแค่นั้นจริง ๆ วันที่ท่านเริ่มสั่งให้ท่องนั้น คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 บอกว่าครบ 1 เดือน คือเดือน 6 ขึ้น 1 ค่ำ ให้มาสอบนะ ให้มาสวดให้ฟังนะ
ข้าพเจ้าก็รีบเร่งท่องเป็นการใหญ่ ภายในเวลาจำกัด 1 เดือนนั้น พอถึงขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ท่านก็เรียกข้าพเจ้าให้ไปทดสอบ โดยให้ท่องให้ท่านฟังทั้งปาฏิโมกข์และเจ็ดตำนาน ปรากฏว่าข้าพเจ้าสามารถสวดให้ท่านฟังได้อย่างคล่องแคล่ว แม้เจ็ดตำนานก็ได้ แม้ปาฏิโมกข์ก็ได้ ท่านจึงออกปากชมว่า “ แหม ผมไม่นึกเลยว่า จะท่องได้ถึงเพียงนี้ แต่ตัวผมเอง ก็ยังทำไม่ได้เร็วขนาดนี้เลย ผมพูดไปเช่นนั้น ก็เพื่อลองเชิงดูต่างหาก “
ดังนั้นภายในเดือนที่สองนั้นเอง ข้าพเจ้าก็สามารถแสดงปาฏิโมกข์ได้อย่างเรียบร้อย โดยใช้เวลาสวดเพียง 40 หรือ 45 นาทีเป็นอย่างช้า การแสดงปฏิโมกข์นี้ข้าพเจ้าได้สวดตลอดมา – ตั้งแต่บวชพรรษาที่ 1 จนถึงพรรษาที่ 20 จึงไดลดละลงบ้าง
ท่านพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺโต ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในทางธุดงค์ปฏิบัติมาก ท่านสอนว่า พระบวชใหม่นี่ต้องเดินจงกรมมาก ๆ นะ นั่งมาก ๆ นะ นอนไม่ได้นะ – ท่านกำชับอย่างเด็ดขาด และอย่าไปกินให้อิ่มนะ
ข้าพเจ้าจึงพยายามปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์ ตั้งใจทำความเพียรอย่างขะมักเขม้น กล่าวคือเดินมาก นั่งมาก ฉันน้อย บางวันก็ฉัน บางวันก็ไม่ฉันสลับกันไป จนกระทั่งวันหนึ่งท่านอาจารย์คงเห็นว่าข้าพเจ้าชักจะซูบผอมเกินไป ท่านจึงทักว่า – พระบวชใหม่ อย่าไปอดข้าวมากนักซี ....... ธาตุมันจะเสีย ธาตุมันจะพิการ ให้ฉันข้าวเสียบ้าง
ท่านสั่งเช่นนั้น ข้าพเจ้าจึงต้องผ่อนฉันอาหารบ้าง พอให้ได้เยียวยาธาตุขันธ์จำได้ว่า ปีที่ข้าพเจ้าอุปสมบทนั้น เป็นปีที่มีการประชุมเพลิงท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโลนั่นเอง

ศาลาและโบสถ์วัดป่าสำราญนิเวศน์ ต.บ้านป่า อ.อำนาจเจริญ เป็นวัดที่หลวงปู่บวชเป็นธรรมยุต และมาท่องปฎิโมกข์และเจ็ดตำนานที่นี่