
บุษบกเป็นเครื่องใช้ประกอบกับของสูงและของสำคัญมีคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบุษบกเล็กหรือบุษบกขนาดใหญ่ล้วนแล้วแต่ใช้ประกอบประดิษฐานของสูงของสำคัญทั้งสิ้น ดังที่ได้เห็นเช่นองค์พระแก้วมรกตก็ประดิษฐานในบุษบก พระพุทธสิหิงค์ก็ประดิษฐานในบุษบก สำหรับบุษบกขนาดใหญ่ก็จะเป็นที่ประทับขององค์พระมหากษัตริย์

บุษบก คือซุ้มยอด มีหลังคาซ้อนชั้นเป็นยอดแหลมแล้วมีบันแถลง (ส่วนที่คล้ายกระจัง) ประดับ บุษบกขนาดใหญ่ พระมหากษัตริย์จะเสด็จเข้าไปประทับเพื่อทรงออกว่าราชการ หรือออกรับทูตานุทูต ขนาดเล็กใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำพระชนมวารหรือพระแก้วมรกต ถ้าประกอบเกรินเข้าไปทั้งซ้าย-ขวา (ส่วนที่วางพานพุ่มซ้าย-ขวาขนาบพานพุ่มตรงกลาง) เรียกว่า “บุษบกมาลา”
บุษบก แต่เดิมเรียกว่า “บุษบกตราแผ่นดิน” นั้น มี 3 บุษบก ตั้งอยู่บนไพธี ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพระมณฑป 1 ด้านตะวันออกเฉียงใต้ 1 และด้านด้านตะวันตกเฉียงใต้ 1
พระบุษบกทั้ง 3 องค์ ตั้งอยู่บนฐานหินอ่อนรูปสี่เหลี่ยม รอบฐานทั้ง 4 ด้านมีรูปช้างที่สำคัญที่คู่พระบุญญาธิการของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล แสดงให้เห็นว่า ในรัชกาลใดทรงได้ช้างสำคัญคู่พระบารมีกี่เชือกด้วย
บุษบกทั้ง 3 องค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นเครื่องแสดงถึงพระบรมราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 5 รัชกาล จึงได้ทรงสร้างพระบรมราชสัญลักษณ์ของพระองค์ไว้เป็นพุทธบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
บนพระบุษบกองค์ตะวันตกเฉียงเหนือ ประดิษฐานพระบรมราชสัญลักษณ์ 3 รัชกาล ดังนี้
พระบรมราชสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 เป็นรูปมงกุฎไม่มีพระจอน ซึ่งหมายถึงว่าพระองค์ทรงเป็นพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และอีกประการหนึ่งก่อนขึ้นเถลิงราชสมบัติ ก็ทรงมีบรรดาศักดิ์เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกด้วย จึงได้มีการเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎซึ่งเป็นอาภรณ์สำหรับกษัตริย์ ถวายเป็นพระบรมราชสัญญลักษณ์เพื่อให้เหมาะกับบรรดาศักดิ์ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ และสมกับที่พระองค์ทรงเป็นพระปฐมบรมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ในกาลต่อมาด้วย
พระบรมราชสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 เป็นรูปพระยาครุฑจับนาค
กล่าวกันว่า เพราะพระนามเดิมคือ “ฉิม” อันวิมานฉิมพลีนั้นเป็นวิมานแห่งพระยาครุฑอันทรงอาณุภาพ จึงทรงใช้รูปพระยาครุฑจับนาคเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล
[พระบรมราชสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นรูปพระวิมาน กล่าวกันว่าเพราะพระนามเดิม คือ “ทับ” ซึ่งหมายถึงที่อยู่ จึงทรงใช้รูปพระวิมานเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ และเป็นพระบรมราชลัญจกร
บนพระบุษบกองค์ตะวันตกเฉียงใต้ ประดิษฐานพระบรมราชสัญลักษณ์ 2 รัชกาล ดังนี้
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เป็นรูปพระมหามงกุฎ เพราะพระนามเดิมของพระองค์คือ “เจ้าฟ้ามงกุฎสมมุติเทวาวงศ์” จึงใช้ตรามงกุฎเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ และพระบรมราชลัญจกรประจำรัชกาล แต่รูปมงกุฎผิดแผกกับมงกุฎรัชกาลที่ 1 ด้วยเป็นพระมงกุฎที่มีพระจอนประกอบด้วย
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นรูปพระจุลมงกุฎ (หรือพระเกี้ยว) เพราะ
พระนามเดิมคือ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ซึ่งหมายถึงเครื่องประดับเกล้าชนิดหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ใช้พระเกี้ยวเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ และเป็นพระบรมราชลัญจกรประจำรัชกาล
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เรียกว่า พระราชลัญจกรพระวชิระ เป็นรูปวชิราวุธ ยอดรัศมีประดิษฐ์บนพานแว่นฟ้าตั้งอยู่เหนือตั่ง มีฉัตรกลีบบัวตั้งอยู่สองข้าง เป็นสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธย "วชิราวุธ" ซึ่งหมายถึง ศาสตราวุธของพระอินทร์
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เรียกว่า พระราชลัญจกรพระแสงศร เป็นรูปพระแสงศร 3 องค์ คือ พระแสงศรพรหมาสตร์ พระแสงศรประลัยวาต พระแสงศรอัคนีวาต เหนือราวพาดพระแสงเป็นดวงตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องซ้ายและเบื้องขวาของราวพาดพระแสงตั้งบังแทรก สอดแทรกด้วยลายกนกอยู่บนพื้นตอนบนของดวงตรา พระแสงศร 3 องค์นี้ เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "ประชาธิปกศักดิเดชน์" ซึ่งมาจากความหมายของศัพท์ คำสุดท้ายของวรรคที่ว่า "เดชน์" แปลว่า ลูกศร
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เป็นรูปพระโพธิสัตว์ ประทับบนบัลลังก์ดอกบัว ห้อยพระบาทขวาเหนือบัวบาน หมายถึงแผ่นดิน พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวตูม และมีเรือนแก้วด้านหลังแทนรัศมี มีแท่นรองรับตั้งฉัตรบริวารทั้งสองข้าง เป็นพระราชสัญลักษณ์ของบรมนามาภิไธยว่า "อานันทมหิดล" ซึ่งแปลความว่า เป็นที่ยินดีของแผ่นดิน เพราะพระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลย ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ใน ระบอบประชาธิปไตย ด้วยความยินดีของอเนกนิกรชาวไทย ประหนึ่งพระโพธิสัตว์ เสด็จมาประทานความร่มเย็น เป็นสุขแก่ทวยราษฎร์ทั้งมวล
พระบรมราชสัญลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยจักรกลางวงจักรมีอักขระเป็น "อุ" หรือ "เลข9" รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตร 7 ชั้น ฉัตรตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ แปลความหมายว่า ทรงมีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน โดยที่วันบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี ได้เสด็จประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศ สมาชิกรัฐสภาถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้ง8 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ทรงรับน้ำอภิเษกจากสมาชิกรัฐสภา แทนที่จะรับจากราชบัณฑิตดั่งในรัชกาลก่อน

บุษบกประดิษฐานพระแก้วมรกต

บุษบกประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์